ท้องถิ่นแต่ละแห่งต่างมีลักษณะทางธรรมชาติ
เช่น ภูเขา แม่น้ำ ความสูงของพื้นที่ และลักษณะทางวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันออกไป ในความแตกต่างเหล่านั้นมักมีความโดดเด่นที่เป็นสิ่งดีงาม อัน
แสดงถึงลักษณะพิเศษที่ปรากฏให้คนทั่วไปเห็นอย่างเด่นชัด
เป็นความโดดเด่นเฉพาะตัวหรือเฉพาะสังคมที่ทำให้ท้องถิ่นนั้นต่างจากท้องถิ่น
อื่น
ลักษณะเด่นที่ปรากฏทั้งทางธรรมชาติและสังคมวัฒนธรรมนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของ
ท้องถิ่นอำเภอด่านซ้าย
จังหวัดเลย อำเภอชาติตระการและอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
ใน
บางบริเวณมีอากาศที่หนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
ทำให้บริเวณพื้นที่เหล่านี้มีพืชพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย
และเป็นพืชที่เกิดเฉพาะท้องถิ่น
ผู้คนในท้องถิ่นเหล่านี้จึงมีวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น
โดยใช้พืชพันธุ์พื้นบ้านที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นมาประกอบอาหารและถนอมเป็น
อาหารที่สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน
ซึ่งพืชพันธุ์ที่จะกล่าวถึงนี้นั่นก็คือ "ต้นสะท้อน"
หรือที่รู้จักกันในชื่อ "สะทอน"
เป็นไม้ยืนต้นตระกูลถั่วที่มีอายุยืนหลายร้อยปี
ลักษณะทรงพุ่ม โดยจะแตกยอดอ่อนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ชาวบ้านในท้องถิ่นนิยมนำใบมาหมักและเคี่ยว
ด้วยกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษนับร้อยปี
เพื่อนำน้ำจากใบสะทอนมาปรุงรสอาหาร
เพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อย อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวบ้านในท้องถิ่นนั้น
น้ำ
ปรุงรสจากใบสะทอน
เป็นน้ำปรุงรสที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้จากการนำใบสะ
ทอนมาทำการหมักตามกรรมวิธี
ให้ได้น้ำปรุงรสที่ใช้แทนน้ำปลาหรือน้ำปลาร้าเนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่
ราบลุ่มภูเขา
ไม่มีปลามากเหมือนในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำ
จึงต้องมีการใช้ภูมิปัญญาในการนำพันธุ์ผักพื้นบ้านมาทำการหมักเป็นน้ำปรุงรส
ทดแทน
ซึ่งน้ำปรุงรสที่ได้จากการหมักใบสะทอน มีกลิ่นและสีเหมือนน้ำปลามาก
จึงถือว่าน้ำปรุงรสจากใบสะทอนเป็นอาหารหมักพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีการถ่าย
ทอดสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
อีก
ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต
น้ำปรุงรสผักสะทอน เป็นวัตถุดิบที่มีเฉพาะในท้องถิ่นและเกิดตามฤดูกาล
ทำให้มีการผลิตที่ไม่ต่อเนื่อง
รวมทั้งยังไม่มีการเผยแพร่ถึงคุณประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่มาก
มายในน้ำปรุงรสจากผักสะทอนให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
เหตุผลดังกล่าวทำให้น้ำปรุงรสจากผักสะทอนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักและยังไม่ได้
รับความนิยม
หากไม่มีการเผยแพร่หรือเก็บรวบรวมองค์ความรู้และพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อให้
ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
น้ำปรุงรสจากผักสะทอนอาจเป็นเพียงตำนานอาหารหมักพื้นบ้านที่คนรุ่นหลังจะ
เห็นแค่เพียงในเอกสารหรือการบอกเล่าต่อกันเท่านั้น
หมักน้ำสะทอน
ต้มน้ำสะทอน
หมักน้ำสะทอน
ต้มน้ำสะทอน
แถวหล่มสักจะใช้ใบอ่อนตากแห้งข้ามปีมาหมัก5หรือ7วันแล้วกรองต้มเคี่ยวใส่เกลือและข่าแก่จัด4สว่นเหลือ1ส่วนในการต้มเคี่ยวข่าที่ใด้จะเอาไปทำนำ้พริกกะทอนนอกจากนี้ถ้ายางมะม่วงกัดปากเอานำ้ผักกะทอนทาจะกายแม่ผมทำให้ผมบ่อยตินเด็ก
ตอบลบพิมพ์ผิบางขออภัย
ตอบลบ